ทำไมต้องซื้อของเล่นให้ลูก

หลายครั้งพ่อแม่คงเกิดคำถามว่าทำไมต้องซื้อของเล่นให้ลูก มันจำเป็นจริงหรือ … แต่รู้หรือไม่ว่าการซื้อของเล่นเด็กที่เหมาะสมกับวัยของลูกนั้น สามารถช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กได้ อีกทั้งยังทำให้ลูกฉลาด ช่วยพัฒนาสมอง และเสริมสร้างจินตนาการ ดังนั้นพ่อแม่จึงควรศึกษาวิธีการเลือกซื้อของเล่นและซื้อให้เหมาะสมกับวัยของลูก

วิธีเลือกซื้อของเล่นให้ลูก

การเลือกของเล่นสำหรับลูกอย่างมีประสิทธิภาพนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยของเล่นที่ผู้ปกครองเลือกควรมีลักษณะดังนี้

  1. เลือกซื้อของเสริมพัฒนาการที่เหมาะสมกับวัยของเด็ก
  2. มีเครื่องหมาย มอก. (มาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรม)
  3. มีความแข็งแรง ทนทาน ไม่แตกหักง่าย
  4. ของเล่นควรมีประโยชน์ สร้างสรรค์ ชักนำไปในทางที่ดี
  5. ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ เช่น สารปรอท
  6. พื้นผิวเรียบ ไม่มีส่วนที่แหลมคม เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
  7. หลีกเลี่ยงของเล่นที่ประกอบด้วยวัสดุชิ้นเล็กๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการที่เด็กจะนำเข้าปากหรือจมูกได้

วิธีเลือกของเล่นให้เหมาะสมกับวัยของลูก

  1. เด็กแรกเกิด (0-1 ปี) ในวัยนี้จะมีการเรียนรู้เกี่ยวกับประสาทสัมผัสเป็นพิเศษและสนใจกับสิ่งรอบตัว ดังนั้นควรเลือกซื้อของเสริมพัฒนาการที่ช่วยกระตุ้นการมองเห็นและการได้ยิน มีขนาดใหญ่ ทำความสะอาดง่าย ตัวอย่างเช่น โมบายสีสันที่ดึงดูดสายตา และกล่องดนตรี
  1. เด็กเล็ก (1-5 ปี) ในวัยนี้มักจะชอบตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว มีจินตนาการสูง เริ่มมีการปฏิสัมพันธ์กับผู้คน มีการพัฒนากล้ามเนื้อและสติปัญญา ดังนั้นควรเลือกซื้อของเสริมพัฒนาการที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ เสริมสร้างจินตนาการและสติปัญญา ตัวอย่างเช่น ลูกบอล และของเล่นรูปทรงที่มีสีสัน
  1. เด็กวัยเรียน (5-9 ปี) ในวัยนี้จะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงสมบูรณ์ มีการเรียนรู้การเข้าสังคม มีการพัฒนาด้านต่างๆอย่างรวดเร็ว เริ่มคิดอะไรที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้นได้ จึงเป็นวัยที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ ดังนั้นควรเลือกซื้อของเสริมพัฒนาการที่ช่วยส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ การเข้าสังคม และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ตัวอย่างเช่น เชือกกระโดด และเกมกระดาน

ประเภทของของเล่นเด็ก

  1. ของเล่นส่งเสริมการพัฒนาด้านสติปัญญา (IQ) โดยของเล่นประเภทนี้จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับสมองซีกซ้าย ต้องใช้ทักษะและความคิด เช่น เลโก้ และเกมกระดาน
  2. ของเล่นส่งเสริมการพัฒนาด้านอารมณ์ (EQ) โดยของเล่นประเภทนี้จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับสมองซีกขวา มักจะเกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึก จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ เช่น ดินน้ำมัน
  3. ของเล่นส่งเสริมการพัฒนาด้านร่างกาย โดยของเล่นประเภทนี้จะเกี่ยวข้องกับการสร้างกล้ามเนื้อ ความยืดหยุ่นของร่างกาย เช่น เชือกกระโดด

ประโยชน์ของของเล่น

หากผู้ปกครองเลือกซื้อของเสริมพัฒนาการให้ลูกอย่างเหมาะสม จะสามารถช่วยเสริมสร้างพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กได้ อีกทั้งเด็กยังได้ฝึกความจำ ความช่างสังเกต และพัฒนาการด้านภาษา ซึ่งจากผลการสำรวจพบว่าการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์และสนุกนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าการเรียนในห้องเรียน นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัส จินตนาการ และความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก ของเล่นบางอย่างยังช่วยพัฒนาทักษะการเข้าสังคม เรียนรู้การอยู่กับผู้อื่น ทำให้เด็กรู้จักการแบ่งปันและมีพัฒนาการทางด้านอารมณ์ที่ดีขึ้น

การดูแลรักษาของเล่นเด็ก

หากของเล่นได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมนั้นจะสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานและประหยัดเงินในกระเป๋าได้ สิ่งสำคัญที่สุดของการเก็บดูแลรักษาของเสริมพัฒนาการสำหรับเด็กคือความสะอาด ผู้ปกครองควรทำความสะอาดเครื่องใช้ของเด็กทุกครั้งหลังการใช้งาน เพราะของเหล่านี้ใกล้ชิดกับเด็ก หากเด็กนำเข้าปากอาจทำให้เกิดโรคต่างๆตามมาได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ดังนั้นพ่อแม่ควรดูแลสุขอนามัยของลูกอยู่เสมอ นอกจากนี้ควรแยกหมวดหมู่ของของเล่นให้ชัดเจน เพื่อสะดวกในการหยิบใช้ในครั้งถัดไป รวมถึงผู้ปกครองควรปฏิบัติตามคำแนะนำที่แนบมาในกล่องซึ่งส่วนใหญ่มักระบุข้อแนะนำวิธีในการเก็บรักษาของเล่น เช่น บางชนิดควรเก็บในที่แห้งเท่านั้นเพราะอาจทำให้เกิดเชื้อราได้

เครื่องเล่นภาคสนาม Indoor-outdoor เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งเล็กใหญ่

  พ่อแม่ทุกคนไม่ว่าใครก็ตามต่างก็อยากเห็นลูกของตัวเองโตขึ้นมาเป็นเด็กที่ฉลาด มีไหวพริบ สามารถเอาตัวรอดและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข การเลี้ยงดูของพ่อแม่ทุกคนจึงจะต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกของตัวเองนั้นเป็นเด็กที่เก่ง และมีความสามารถ เพราะฉะนั้นการเลือกนำเอาตัวช่วยต่างๆ เข้ามาเป็นส่วนประกอบก็นับว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว แม้ในปัจจุบันเทคโนโลยีจะมีความก้าวหน้าไปไกล เด็กตัวเล็กๆ สามารถที่จะเล่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้อย่างคล่องแคล่ว แต่จริงๆ แล้วยังไงเสียการใช้ของเล่นหรือของเสริมพัฒนาการที่เป็นไปตามวัยย่อมได้ผลดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด

ประเภทของเล่นที่สามารถเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกได้เป็นอย่างดี

  1. เครื่องออกกำลังกายหรือเครื่องเล่นกลางแจ้งต่างๆ – นี่เป็นสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดสำหรับสิ่งที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของลูกคุณได้ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสุขภาพร่างกาย เรื่องของการมีมนุษยสัมพันธ์กับผู้อื่น รวมไปถึงการได้รู้จักใช้ความคิดในการออกความคิดเห็นเพื่อเล่นกับเพื่อนๆ พ่อแม่ควรพยายามพาลูกๆ ของคุณไปหาสถานที่ที่มีเครื่องออกกำลายหรือเครื่องเล่นกลางแจ้งบ่อยๆ เพื่อให้เขาได้มีการพัฒนาทางด้านร่างกายและความคิดไปพร้อมๆ กันโดยถ้าหากเป็นเด็กโตก็อาจจะเป็นเครื่องเล่นเหล็กทั่วไป ที่เราสามารถเห็นได้ตามสนามเด็กเล่น หรือสวนสาธารณะ หรือถ้าหากว่าเป็นเด็กเล็กหน่อยและยังไม่ค่อยถนัดในเรื่องการปีนป่ายหรือการออกกำลังกาย ก็จะมีเครื่องเล่นพลาสติกที่ปลอดภัยสำหรับเด็กๆ เหล่านี้อยู่ตามห้างสรรพสินค้าหรือสนามเด็กเล่นบางแห่ง
  2. ของเล่นพลาสติกทั่วไป – คือของเล่นที่เราสามารถซื้อได้จากตามร้านขายของเล่นทั่วๆ ไป ของเหล่านี้จะช่วยฝึกในด้านของการใช้จินตนาการและความคิดนอกกรอบของเด็กๆ โดยพ่อแม่เองอาจจะเริ่มต้นจากการซื้อของเล่นพลาสติกน่ารักๆ มาให้ลูกได้ลองเล่น และที่สำคัญของเล่นพลาสติกจะมีสีสันสวยงามทำให้เป็นที่สนใจของเด็กและไม่เป็นอันตรายต่อลูกด้วย
  3. สื่อการเรียนรู้หรือสื่อการสอนทั่วๆ ไป – การใช้สื่อการเรียนรู้หรือสื่อการเรียนการสอนมาเป็นตัวช่วยจะทำให้ลูกของคุณมีพัฒนาการทางด้านความคิด การวิเคราะห์ การค้นหาคำตอบ และด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวกับสมองได้เป็นอย่างดี ซึ่งสื่อการเรียนการสอนที่ว่านี้ก็มีมากมายและสามารถหาซื้อได้ทั่วไป อาทิ ภาพการต่อจิ๊กซอว์, บล็อกตัวต่อ, ชุดภาพจำลอง, เกมเกี่ยวกับรูปทรงเรขาคณิต, เกมเล่นจับคู่ และอื่นๆ อีกมากมาย

 

การที่อยากจะให้ลูกเป็นคนฉลาดนั้นสิ่งสำคัญที่สุดก็คืออยู่ที่ความเอาใจใส่ของพ่อแม่ว่ามีต่อลูกมากน้อยแค่ไหน และการที่ให้เขาได้ใช้ทักษะทั่วๆ ไปของการเป็นเด็กไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย ความคิด การตัดสินใจ จะทำให้เขามีพัฒนาการที่ดีสมวัยและพร้อมที่จะโตขึ้นไปในอนาคต

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

fourteen + two =